5/29/07

OnlineADs-Hot trend โฆษณาในเน็ตไม่เลิกร้อนแรงง่ายๆ

วันนี้ไปอ่านข่าวที่เว็บผู้จัดการมา ก็เห็นข่าวน่าสนใจข่าวนึงเลยเก็บไว้ในเว็บนี้ครับ เกี่ยวกับเรื่องเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดการโฆษณาออนไลน์ครับ

นักการตลาดสหรัฐเล็งโลกออนไลน์ เชื่อเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างแบรนด์ได้ในราคาที่หลากหลาย ชูจุดเด่นเป็นสื่อเพื่อการตลาดยุคใหม่ที่ยืดหยุ่น-โต้ตอบกับลูกค้าได้ตรงกลุ่ม พร้อมทั้งคาดการณ์อัตราการเติบโตของธุรกิจโฆษณาออนไลน์นี้จะยังคงเพิ่มสูงต่อไป

กลายเป็นธุรกิจที่ห่างไกลจากคำว่า "อิ่มตัว" ไปเสียแล้ว กับวงการโฆษณาผ่านทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเส้นทางหลักของการบริโภคข่าวสาร สาระ ความบันเทิง ของผู้บริโภคยุคใหม่ไปแล้วเรียบร้อย และทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาเริ่มลืมตาอ้าปากได้มากขึ้นกับรายได้โฆษณาที่ไหลบ่าเข้ามาในวงการนี้

จากการเปิดเผยของ Interactive Advertising Bureau หรือ IAB เกี่ยวกับตัวเลขรายได้ค่าโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตของสหรัฐอเมริกาในปี 2006 พบแซงหน้ารายได้จากปี 2005 ไปด้วยตัวเลข 16,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 592 พันล้านบาท) พร้อมทั้งเผยว่า รายได้ของธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไปด้วย

นอกจากนั้น IAB และไพรส์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ได้ชี้ให้เห็นว่า การเติบโตของธุรกิจโฆษณาในตลาดแห่งนี้เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ภายในปีเดียว (2005-2006) อันเป็นผลมาจากเหล่านักโฆษณา และบรรดาเอเจนซี่เริ่มมองเห็นความสำคัญ และหันมาทุ่มงบจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างความตระหนักในแบรนด์สินค้าให้เกิดแก่ผู้บริโภคหรือนักท่องเน็ต หรือเพื่อทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในตัวสินค้า


แรนดาลล์ โรเทนเบิร์ก (Randall Rothenberg) ผู้บริหารของ IAB กล่าวว่า "ผู้ที่อยู่ในแวดวงโฆษณาออนไลน์ในปัจจุบันมีความเชื่อมั่นสูงมากว่า การทำตลาดบนแพลตฟอร์มใหม่ของโลกออนไลน์แห่งนี้จะช่วยให้ผู้ค้าต่อสายตรงถึงผู้บริโภคของเขาได้"

เดวิด ซิลเวอร์แมน พาร์ทเนอร์ของไพรส์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์กล่าวว่า "อัตราการเติบโตในโฆษณาแบบอินเทอร์แอคทีฟ (แบบสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้) ในปี 2006 สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า สื่อดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการทำตลาดในยุคปัจจุบัน และนักการตลาดควรให้ความสำคัญ ถือเป็นอีกหนึ่งด่านที่สามารถวัดความสามารถของนักการตลาด ว่าจะสร้างแบรนด์ด้วยสื่อชนิดใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามจุดมุ่งหมายได้มากเพียงไร"

จากสถิติดังกล่าว IAB และไพรส์วอเตอร์เฮ้าส์คาดว่า บรรดาเว็บไซต์ จะสามารถนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาพัฒนารูปแบบการโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ได้อีกหลายทางเลยทีเดียว


อ่านๆแล้วก็คิดถึงบ้านเรา ในเมืองไทยแม้ว่าตอนนี้จะยังเงียบๆอยู่ หลายๆบริษัทก็พยายามโหม ประชาสัมพันธ์ ถึงประโยชน์ของการใช้งาน ให้ข่าวสาร รวมทั้งจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้และสนใจนำไปใช้ ทองก็คือทองอยู่วันยังค่ำ เชื่อว่าอีกไม่นานสื่อชนิดใหม่นี้ ผมเชื่อว่าจะแทนที่สื่อเก่าๆทีละน้อยๆครับ

เครดิต เว็บผู้จัดการ 26 พฤษภาคม 2550 13:15 น.

5/28/07

HTML optimize ลดขนาดเพิ่มสปีด

บทความนี้ผมไปเจอมาจากเว็บพันทิพผู้แปลก็แปลจากต้นฉบับจาก mozilla ครับ ที่เอาเรื่องนี้มาลง ก็เห็นว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่บางท่านอาจจะลืมๆไปบ้างแล้ว

ทิปการเขียน HTML ให้โหลดเร็วๆ

1. ลดน้ำหนักมันซะบ้าง
ไฟล์ขนาดยิ่งใหญ่ก็ยิ่งต้องโหลดนาน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นการลดน้ำหนักของไฟล์ HTML ลง ด้วยการลบ whitespaces (ช่องว่าง, แท็บ, การขึ้นบรรทัดใหม่), คอมเมนต์ทั้งหลายที่ไม่จำเป็น และย้ายสคริปต์,CSS ต่างๆไปเก็บแยกไฟล์ไว้ ก็ช่วยลดขนาดของไฟล์ลงไปได้ โดยไม่กระทบกระเทือนกับรูปหน้าโดยรวมของเพจนั้นๆ

ทูลเช่น HTML Tidy สามารถช่วยตรงนี้ได้ และยังมีทูลบางตัวที่สามารถบีบอัดไฟล์ javascript ได้ด้วย

2. ใช้ไฟล์ภายนอกให้น้อยที่สุด
จริงอยู่ที่การแยก script, css ออกจาก html จะลดขนาดของไฟล์ html ลงได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะมีลิ้งค์ไปยังไฟล์มากเกินไป (รวมทั้งรูปด้วย) เพราะยิ่งลิ้งค์ไฟล์มาก ก็จะยิ่งเสียเวลาในการโหลด Header ต่างๆของ HTTP Protocol

3. เรียกไฟล์จากโดเมนอื่นๆให้น้อยที่สุด
การลิ้งค์ไฟล์จากเว็บอื่นๆนั้น จะมีเวลาส่วนหนึ่งเสียไปกับการ DNS lookup ดังนั้นจึงไม่ควรโหลดไฟล์จากเว็บอื่นๆให้มากนัก แต่อยากไรก็ตาม ในทางปฎิบัติ หากจำเป็นต้องลิ้งค์ไฟล์จากภายนอก ก็พยายามใช้ให้น้อยที่สุด

4. จัดลำดับการโหลดของข้อมูล
ควรเขียนให้มีการโหลดเนื้อหาของหน้านั้นๆก่อน (เนื้อหา, css, script ที่จำเป็นต่อการแสดงผล) ส่วนของพวก DHTML ที่ปกติต้องรอหน้านั้นโหลดจนครบแล้วให้ทำงาน ก็ควรจะนำไปไว้ที่ท้ายสุดของการโหลด

5. ลดการใช้ inline scripts
การใช้ inline scripts อาจทำให้การแสดงผลต้องยืดเยื้อออกไปมากได้ เพราะตัว browser ต้องมีการคิดคำนวณดูว่าสคริปต์ที่ใส่เข้าไปนั้น มีผลกับการแสดงผลหรือไม่ ดังนั้นควรพยายามลดการใช้ inline scripts และลดการใช้ document.write() เพื่อแสดงผลข้อมูล จะช่วยให้สามารถแสดงผลหน้านั้นๆได้เร็วขึ้น

6. แยกเนื้อหาออกเป็นส่วนเล็กๆ
ลดการใช้ nested table,div หรือการซ้อนแท็กหลายๆชั้น เช่น

<table>
  <table>
    <table>
    ....
    </table>
  </table>
</table>
แต่เปลี่ยนมาใช้เป็น

<table>....</table>
<table>....</table>
<table>....</table>
แทน

7. ระบุขนาดของรูป และตารางลงไปด้วย
การระบุขนาดของรูปและตารางลงไปตั้งแต่แรก จะช่วยให้ตัวแสดงผลของ browser สามารถแสดงผลได้เร็วขึ้น เนื่องจากจะสามารถเผื่อพื้นที่ไว้ให้คอนเทนต์นั้นๆได้เลย ดังนั้นแท็ก img ควรมีการกำหนด height และ width ด้วย และแท็ก table ก็ควรใช้ css table-layout:fixed ไว้ และกำหนดความกว้างของแต่ละคอลัมน์ไว้ด้วยในแท็ก COL หรือ COLGROUP

ตัวอย่าง STRUCTURE ของ HTML
HTML
HEAD
LINK (สำหรับไฟล์ CSS)
SCRIPT (สคริปต์ที่จำเป็นต่อการโหลดหน้านั้นๆ ที่ไม่ใช่ DHTML ต่างๆ)
BODY
แยกข้อมูลเป็นส่วนย่อยๆ จะช่วยให้สามารถแสดงผลได้โดย ไม่ต้องรอให้โหลดเสร็จทั้งหน้า
SCRIPT (สคริปต์ DHTML ต่างๆ เช่น menu ที่ปกติต้องรอให้เพจโหลดเสร็จก่อน แล้วจึงทำงานได้ ควรนำมาใส่ไว้ที่ด้านท้ายของหน้านั้นๆ ไม่ควรนำไปใส่ไว้ส่วน HEAD เพราะจะเสียเวลาโหลด ทำให้แสดงผลช้าลงไปอีก)

เครดิต จากคุณ Dr.Yes แห่งพันทิพดอทคอม
ต้นฉบับ จากhttp://developer.mozilla.org/

5/23/07

Rich Media

คำนิยามของ Rich media หลายคนอาจได้ยินบ่อยๆ บางคนเพิ่งเคยได้ยิน และก็หลายคนที่ไม่รู้จัก ก่อนหน้านี้ผมก็ยอมรับเลยนะครับว่าไม่รู้จักมันมาก่อนเลยจนกระทั่งได้มาทำงานในสายนี้โดยตรง
คำนิยามของ Rich Media ก็คือ Simpler, Faster, More Powerful หรือที่บ้านเราเรียก Rapid Ads นั่นแหละครับ ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปแบบของตัวโฆษณาเท่านั้นนะครับ ยังมีเรื่องของการแทรคกิ้งด้วยครับ เพราะโฆษณาพวกนี้ล้วนสร้างขึ้นมาด้วยราคาไม่ถูกเลย ครั้นจะเอามาโชว์ๆ กดแล้วสวย ดูดีอย่างเดียว คงไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ครับ โฆษณาพวกนี้ทุกครั้งที่คุณคลิกมันจะจับตาคุณดูอยู่ตลอดเวลาจนกว่าคุณจะออกจากไซต์นั้น (บางตัวมันยังแอบอยู่ในเครื่อง คอยตามเราจนกว่ามันจะหมดอายุอีก ด้วยไฟล์คุ้กกี้ครับ)
ยกตัวอย่างใกล้ๆตัวตอนนี้ก็ลองสังเกตุ MSN นะครับ จากเดิมแถบโฆษณาด้านล่างมันจะนิ่งๆ ตอนนี้มันเริ่ม ออกลายครับ มันไม่ได้ติดอยู่แค่กรอบขนาด 235x60 อีกต่อไปครับ เพราะตั้งแต่ rich media บูมๆในไทย(ก็ตอนนี้แหละครับ) บริษัทนึงที่ทำโฆษณาให้ TrueInternet ก็ออกแคมเปญเจ้าปลาฉลามสีฟ้า ใน MSN ครับเรื่มมีการใช้แท้กพิเศษทำให้มันมีภาพเคลื่อนไหว ยิ่งไปกว่านั้นมันยังแสดงผลแบบ full screen ได้อีกครับ(มันเริ่มออกลายไงครับ บอกแล้ว)
ในยุคต่อไปโฆษณาจะน่าสนใจกว่าปัจจุบันมากกว่านี้เยอะครับ โฆษณาจะน่าคลิกกว่าเดิม หรือทำให้หลายๆคนค้นหาว่าคลิกตรงไหนมันถึงจะสนุกครับ

ผมเอาตัวอย่างโฆษณาของบริษัทนึงมาฝากครับเป็นตัวอย่าง Rich media ที่น่าสนใจมากเลยครับ
***แนะนำให้ใช้ IE เปิดครับ
>>>ADs MI-III ด้านขวาครับ คลิกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น???
>>>โดดน้ำตูมๆครับ
>>>แบบ floting Ads ที่บ้านเราเคยบูมอยู่พักนึงครับ(ตอนนี้รู้สึกจะไม่ค่อยมีคนใช้แล้วนะครับ)
>>>Expenable banner เอาเมาส์ไปวางด้านบนครับ
>>>Polite Banner ครับ ถ้าอยากจะดูต้องขยับครับ ลองดูเด๋วก็เข้าใจครับ

...และอีกมากมายก่ายกองครับ ลองค้นในกูเกิลด้วยคำว่า Rich Media ครับ

5/22/07

อะไรไม่ดีก็ตัดทิ้ง...ลูกค้าคนไหนไม่ได้เรื่องก็อย่าไปสนใจ.I not invite bad customer.



การทำให้ลูกค้าคนหนึ่งพอใจนั้น อาจจะมีการใช้ต้นทุนที่แตกต่างกับลูกค้าอีกคนหนึ่ง และรายได้ก็เช่นกันก็อาจจะไมได้รับกลับมาเท่ากัน... ดังนั้นในธุรกิจ ควรที่จะสานความสัมพันธ์กับลูกค้าที่สามารถสร้างผลกำไรและพยายาม ยุติความสัมพันธ์กันลูกค้าที่ไม่ได้สร้างผลกำไรอะไรมากมาย




ในระยาว ผมก็เชื่อว่าสักวันลูกค้าที่คุณต้องใช้ต้นทุนมหาศาล (กว่าจะได้มาสักราย) คงจะสร้างมูลค่าให้คุณบ้างไม่มากก็น้อยในอนาคตครับ. .... ยามสบายจะมาคิดถึงกัน แต่ยามลำบากทำไม่สนใจ

5/21/07

4p เรื่องBasic ของ Marketing กับ capmoo web.

หลังจากหายกันไปวันสองวัน จริงๆมีหลายเรื่องที่อยากจะเขียน(ทั้งให้ตัวเองอ่านและคนที่ผ่านมา)
คือเรื่อง rich media ที่ปัจจุบันรับผิดชอบงานอยู่ แต่ก้คิดว่ายังมีข้อมูลไม่มากพอ เด๋วจักพาเข้ารกเข้าพงไปซะเปล่าๆ

วันนี้เลยอยากจะมาทบทวนบทเรียนครั้งตอนที่ยังเรียนอยู่ที่มหาลัย
เผื่อว่าจะมีไอเดียไปประยุกต์ใช้กับเว็บแคบหมูได้บ้าง (เขียนแผนการตลาดไว้แล้ว เด๋วจะเอาแผนมาโชว์ในโอกาศต่อๆไป)

4p = Four pieces for make your product perfect. Product Strategy+Price Strategy+Place Strategy+Promotion Strategy => Your Unique Product/service.

ในนิยามของผม 4p ก็คือสิ่งที่คอยเติมเต็ม(ให้ครบ)กับสินค้าหรือบริการของเรา โดยผมจะเรียกมันว่ากลยุทธ์ละกันนะครับ
บางเกจิก็บอกว่า 4p มันยังไม่มากพอ ธุรกิจบริการก้ต้องแบ่งเป้น 7p นะ เพิ่ม people, physical evidence, process เข้าไปด้วย
บางเกจิก็เพิ่มเป็น 8p มีเพิ่ม PHILOSOPHY เข้าไปอีก

เอาละครับไม่ว่าจะเป็น กลยุทธ์แบบไหน มันก้ต้องมี 4p เป็นพื้นฐาน เหมือนสร้างตึก เสา รึ หลังคา ก็ไม่สำคัญเท่าฐานราก ครับ

ในเว็บแคบหมูผมจะไม่ค่อยคิดมากเรื่อง นี้เท่าไหร่เพราะผม อยากให้มันเป็นธรรมชาติ
เปรียบเป็นต้นไม้ที่คอยเติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการไปเร่งมัน ปุ๋ยที่เราให้ก็ต้องปรกติไม่ใช่ใส่ยาเร่ง

Product => เน้นความถูกต้องของข้อมูล
สินค้าของเว็บแคบหมูเป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เพราะเราเป็นธุรกิจบริการครับ เว็บนี้ตั้งใจจะให้บริการบุคคลทั่วไปเพื่อค้นหาที่พักอาศัย ทั่วประเทศ ไม่ได้จำกัดว่าจะอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ได้เน้นว่าใครหรือผู้ให้บริการรายใด จะสามารถโชว์ข้อมูลง่ายกว่าใคร เราไม่ต้องการเสนอว่าคุณควรไปอยู่ที่นั่นที่นี่ แต่เราจะพยายามเสนอว่า ที่ๆคุณต้องการ ในบริเวณนั้น รึว่าในเงื่อนไขแบบนั้นๆมีที่พักอะไรที่ไหน อยู่บ้าง
เรื่องนี้มันเป็นความคับแค้นใจส่วนตัวครับ(ขำขำนะครับ) คือผมเคยคิดจะค้าหาหอพักซักที่นึง หาในเน็ตหายังไงก็ไม่ได้ ทั้งๆที่ในเมืองไทยมีเว็บค้นหาประเภทนี้มากมายนับสิบเว็บ มีข้อมูลในฐานข้อมูลนับ หมึ่นที่
แต่พอเรียกหาข้อมูลมีทั้งข้อมูลขยะที่ไม่ได้รับการอัพเดต ข้อมูลไม่ครบถ้วน มีโฆษณามากมาย เว็บโหลดช้ากว่าจะหาได้แต่ละหน้า...โอ้ยไม่หาดีกว่า(นี่ละครับความคับแค้นใจ ของผม)

Price => ราคากำหนดเองโดยผู้ซื้อราคาสำหรับบริการของเว็บผมนั้นส่วนใหญ่ ฟรีครับ ผู้มาค้นหาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ เราไม่ได้เน้นที่รายได้จากการขายโฆษณา แต่เราเน้นรายได้จาก % การเข้าพักครับ ความหมายของเราก็คือ ถ้าคุณ(ผู้ให้บริการ)มาเสนอในเว็บของเรา และมีผู้เข้าพัก เว็บแคบหมูก็จะได้รายได้ตรงนี้ครับ จะเห้นว่า win-win ครับ ผู้ให้บริการ ก็ได้เงินค่าเช่า เว็บแคบหมูก็ได้ค่าโฆษณา ผิดกับหลายๆเว็บที่มีการโฆษณา โดยไม่สามารถบอกได้ว่าการโฆษณานั้นคุ้มค่าหรือไม่ครับ หากใครยังไม่เข้าใจคอนเซบนี้ก็ลองมาอ่านประโยคต่อไปนี้นะครับ
"ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่ลูกค้าจะยอมจ่าย จะมีมูลค่าที่มากกว่าหรือเท่ากันกับสินค้าที่ได้รับเสมอ" เว็บผมเน้นที่แนวคิดนี้ครับ.

Place => เข้าถึงได้ทุกที่
ด้วยความโชคดี(ที่เตรียมตัวไว้แล้ว) เราก็ได้้จุดแข็งของเทคโนโลยีมาครอบครอง เว็บ ถือเป็นเครื่องมือที่สุดยอดปราถนาของนักการตลาดทุกคน
มันไม่มีวันปิด เข้าถึงได้ทุกเวลา และมีอยู่ทุกที่ ตอนนี้เราอาจใช้งานเว็บกันในคอมพิวเตอร์กันมากกว่าอุปกรณ์ชนิดอื่น แต่อีกไม่นาน ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างจะเชื่อมเข้ากับเว็บครับ แล้วเรื่อง สถานที่นี้บางคนก็จะบอกว่ามันก็คือ Distribution ด้วยครับการกระจายบริการ ไปยังลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการใช้งาน ผมพยายามเพิ่มช่องทางการติดต่อนอกจากเว็บ คือ มือถือ หรือ call center ในอนาคตต่อไป

Promotion => ใช้การกระจายตัวของข่าวสาร แบบปากต่อปาก
แหมเรื่องนี้จริงๆก็ถือเป็นจุดอ่อนสำหรับผมเลยนะครับ เพราะผมไม่ค่อยถนัดทำให้ต้องไปอ่านข้อมูลเพิ่มนิดหน่อย จึงพอจำความได้ว่า โปรโมชั่น จะประกอบไปด้วยหลายอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ใช่แค่การ ลด แลก แจก แถม เหมือนอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ การใช้สื่อโฆษณา, การส่งเสริมการขาย, การประชาสัมพันธ์ และ การส่งเสริมการขายด้วยบุคคล และยังมีอีกหลากหลายเพื่อที่จะกระตุ้นหรือทำให้สินค้า/บริการเป็นที่รู้จักตราสินค้าหรือบริษัท ที่ผมเรื่อง viral marketing นั้นเป็นเพราะเริ่มต้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ แต่ก็ต้องสร้างหรือว่าใช้ความพยายามค่อนข้างมากครับ แต่สิ่งที่ผมเชื่อ(ในตัวเอง) คือ บริการ(core service) ที่มีข้อมูลครบครัน จะช่วยเว็บแคบหมู มีการบอกต่อกันไปด้วยบริการที่ประทับใจครับ.

5/17/07

Speed up Joomla เว็บเร็วขึ้น อะไรๆก็ง่ายขึ้น

วันนี้ได้ลองเข้าไปใช้เว็บบอร์ดของ joomla ที่นี่คนไทยก็ค่อนข้างจะให้ความสนใจกันดี มีความเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่า CMS จุมล่า มันช้ามาก ถึงมากที่สุด แรกๆไม่เข้าใจ พอมาลองเอง ก็รู้สึกถึงความหนึด !!~ ที่ได้รับ มันเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างฉุดเราไว้ เมื่อเทียบกับเว็บอื่น หลังกดโหลดหน้าเว็บแล้ว แค่อึดใจเดียว มันก็ปรากฎขึ้นมา...แต่ไฉน เว็บเรา อึดใหญ่ๆโน่น แนะ ถึงจะโผล่

สงสัยอยู่นานและคิดว่าคงต้องหาโฮสดีๆมาใช้ซะแล้ว ปัจจุบันโฮสที่ใช้ อยู่ก็แค่เดือนละร้อยกว่าบาท เรียกว่าถูกมากมาย วันนี้มีคุณararegodji
มาโพสกระทู้ถามเกี่ยวกับ ทำไมเว็บเค้าถึงช้ามากมายแบบนี้ เค้ามีหลักฐานนะครับ ใช้เครื่องมือในการวัดload first byte(เรียกว่ากว่าจะได้ ข้อมูลตัวแรก นานขนาดไหน)

10 วิ+ นี่มันนานขนาดนั้นเลย เปรียบเทียบ กับเวปอื่นๆ "time to first byte" ไม่เกิน 1วิ+ ก็ได้แล้ว มันเหมือนกับ เวปต้อง burnin เครื่องทุกครั้งก่อนออกวิ่ง แต่อีกเวปสตาร์ท ปุ๊บ วิ่งได้เลย อันนี้ เป็นเพราะอะไร...

ไม่นานครับคุณararegodjiก็กลับมาตอบ(ถามเอง-ตอบเอง) อย่างรวดเร็ว และก็ไม่ผิดหวังครับเค้าแก้ปัญหาได้แล้ว

จากการลองไปโพสใน thaihosttalk.com ดูมีท่านหนึ่ง
ให้ลองแก้ ใน file config
$mosConfig_host = 'www.icommenting.com';
เป็น$mosConfig_host = 'locatlhost';

ผมปรากฎว่า เร็วขึ้นทันตาเห็นเลยครับท่าน เร็วเท่าๆกับเวปอื่น ทดสอบดูแล้ว time to first byte ก็ไม่ถึง 1วินาที โห..ขอบคุณมากเลยครับ ที่แนะนำ Grin


....ผม ก็เอามาลองกะ capmoo.comของตัวผมบ้าง โอ้ มายก้อด มันยอดมาก~!!! ได้ความเร็วแบบที่อยากให้เป็นครับ มันเร็วแบบไม่มีสะดุด กดแล้วมาเลย อืมๆๆ ผมก็สงสัย ทำไมนะมันถึงเป็นแบบนี้

Guru ในเว็บ joomla ก็มีเยอะครับไม่นานมีคนมาอธิบายปรากฏการณ์ที่ไม่เหนือธรรมชาติ แต่บางคนไม่รู้ไว้ว่า.

By i_siam_guy

windows ก็ใส่คำว่า "localhost" เหมือนกันน่าน หล่ะ...
ดีกว่าใส่ชื่อ "domain name" หน่อย ตรงทีมันจะ loopback เข้าเครื่องตัวเองเลย... ไม่ต้องเสียเวลาไปหา nameserver ก่อน แต่มันจะต่อเข้า tpc socket (ระบบ network) แทน เพราะมันไม่มี unix socket (ระบบ filesystem) (ที่บอกว่าทำไม่ได้ หมายถึง ต่อเข้า unix socket ไม่ได้ครับ.. เดี๋ยวจะงง)

ถ้าคนใช้ website พร้อมกันเยอะ ๆ เช่นพวก hosting ก็อาจมีปัญหาได้ เพราะ http:// ก้อใช้ tpc socket และต้องเสียเวลาหา tpc socket ที่ว่าง (ตามทฤษฎี) ผมว่ามีผลนิดหน่อยนะ ... เพราะปกติจะมี tpc socket เหลือเฟืออยู่แล้ว

ถ้ามีการปรับแต่ง host แบบ max ๆ แล้ว linux จะรองรับคนใช้งาน (website ที่มี mysql db อยู่บนเครื่องเดียวกัน) แบบ max capacity ได้มากกว่า windows ประมาณ 2 เท่า ... เพราะว่ามันมี unix socket มาช่วยแบ่งภาระของ tpc socket


ใช้ได้เลยครับใครมีปัญหาเรื่องความเร็วก็ลองเอาทิปนี้ไปใช้ครับ น่าสนใจมากเลยครับ :P

5/14/07

Multi Site ทางเข้าหลายทางแก้ปัญหาเดิมๆ,Ten thing from Google

ในตอนแรก(ขั้นตอนการคิดชื่อเวป) ผมก็คิดที่จะใช้ชื่อเว็ปลักษณะที่สัมพันธ์กับชื่อ เกี่ยวกับ อพาร์ทเมนท์บ้าง โฮม บ้าง เฮาส์บ้าง หลายๆอย่าง แต่ชื่อที่ได้ก็ไม่ได้มีความเป็นตัวของตัวเองเลย ชื่อที่ได้มันเหมือนๆกันไปซะหมด ThailandApartmentCenter ชื่อยาวเหยียด(14/05/2550 ปัจจุบันชื่อนี้ยังว่างอยู่ครับ) ยังไม่พอใจผมต้องการชื่อสั้นๆ ชัดเจน ที่จำได้ง่าย

ผลก็คือ ใช้ชื่อ แคบหมูดอทคอม

เอ...แล้วแคบหมูมันมาเกี่ยวข้องอะไรกับเว็บค้นหาที่พักละครับ เราจำเป็นต้องสร้างเรื่องราวออกมาให้เกี่ยวข้องกัน ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นก็คือแผนธุรกิจ ที่สร้างมาตั้งแต่แรก ที่จะใช้ เอนจิ้นของ Google Map มาใช้งาน ก็จะเรียกเว็บนี้ว่า CoolMap แต่ชื่อนี้ถูกจดไปแล้ว แต่เราเลี่ยงโดย ใช้คำพ้องเสียงกลับ(คำผวน) ก็จะได้เสียง แคบมูล เราจึงสร้าง เว็บที่ชื่อคล้องจองที่สุด คือแคบหมู นั่นเอง

Characteristic ของเว็บแคบหมู จะดำเนินตามหลักการธุรกิจของ Google ที่ได้รับการรับรองมาแล้วว่าประสบผล สำเร็จมากนั่นคือ หลัก 10 ประการ ของ Google

Ten things 10 สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในเว็บนี้ครับ.
1. Focus on the user and all else will follow.
2. It's best to do one thing really, really well.
3. Fast is better than slow.
4. Democracy on the web works.
5. You don't need to be at your desk to need an answer.
6. You can make money without doing evil.
7. There's always more information out there.
8. The need for information crosses all borders.
9. You can be serious without a suit.
10. Great just isn't good enough.
ปัญหาที่พบนั้นคือ ชื่อแคบหมู สะกดได้หลายอย่าง เราสามารถสะกดชื่อนี้ได้ หลากหลายมาก เพราะเสียง ตัว ค.ควาย สามารถแปลงไปได้ท้ง ตัว C. และ K.

วิธีการแก้ปัญหาที่ผมเลือกใช้คือ การใช้ multi site คือชื่อเว็บนี้จะมีหลายชื่อ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใช้งาน และ ยากต่อการสะกดผิด หากสะกดผิดแล้วก็สามารถเข้าใช้เว็บได้ เว็บที่ผมเลือกมานั่นคือ
  1. Capmoo.com
  2. Cabmoo.com
  3. Kapmoo.com
  4. Kabmoo.com
โดยทุกชื่อสามารถ redirect ไปที่ capmoo.com ได้หมดครับ

5/12/07

เว็บใหม่เกิดใหม่ 1 พค 2550 Capmoo.com

หน้าหลักของเว็ปปัจจุบัน แม้ยังมีข้อมูลไม่มาก แต่หวังว่าข้อมูลจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ
หน้าค้นหาปัจจุบันถึง property ในการค้นหาน้อยลง แต่หมวดหมู่ถูกจัดให้ดีขึ้นด้วย Java script
หมดยุคของ Joomlaboard แล้ว เพราะหยุดพัฒนาไปแล้ว ผมจึงเปลี่ยนมาใช้ Fireboard ใหม่กว่าเจ๋งกว่า

หน้าตาเว็บดีไซน์(เก่าๆ) กว่าจะมาเป็น เว็บปัจจุบัน

รูปนี้ จะเห็นว่า แรกๆใช้ encoding utf-8 ภาษาไทยมันจะใช้ไม่ได้เลย เละไปหมด (Engine MisterEstate) -25 เมษายน 2550, 22:34:54


รูปนี้เน้นสีเขียวซึ่งเป็นเว็บต้นแบบ -23 มีนาคม 2550, 21:04:54


รูปนลองเปลี่ยนธีมเป็นสีฟ้าคราม ....ไม่ได้เรื่องเลยครับ สร้างเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550, 11:24:43


อยากรู้ว่าสีฟ้า + สีเขียวเป็นยังไง .... โลโก้ยังเดิมๆเลยครับ -30 มีนาคม 2550, 21:53:44


property บางตัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย...ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่า...มันไม่มีอยุ่แล้ว อิอิ -30 มีนาคม 2550, 22:11:49


อาจมองไม่ค่อยชัดนะ แต่รูปนี้ดูดีทีเดียว สีฟ้า พอเพิ่มรูปบ้านเข้ามาก็เข้ากันดีครับ -20 มีนาคม 2550, 20:44:04


ธีมสีเขียวกับ หมวดหมู่ที่โล่งโจ้งมาก ... ตอนหลังรื้อใหม่อีกครับ -24 มีนาคม 2550, 17:45:10


ธีมสีเขียว แต่คราวนี้มี ข้อผิดพลาดเรื่อง ดีไซน์ -24 มีนาคม 2550, 17:36:22


property ที่ละเอียดยิบๆ หวังว่าคอนเซปนี้จะทำได้อีก -23 มีนาคม 2550, 23:27:55


เว็บบอร์ดที่สีจืดมากๆเลย ใช้ engine ของ joomlaboard -25 มีนาคม 2550, 21:06:11


ธีมสีเขียว ตอนนี้ยังคิด แคทากอรี่ไม่ออก ผลจึงเป็นดังภาพ -21 มีนาคม 2550, 10:34:24

5/11/07

เริ่มสร้าง Blog วันแรกครับ

เริ่มต้นสร้าง บล้อก ครับ
ต่อไปจะเอาข้อมูลที่เกี่ยวกับเว็บ แคบหมูดอทคอม

Capmoo.com มาใส่ไว้ในนี้นะครับ

เป็นกรณีศึกษาหรือเอาไปเป็นตัวอย่างได้ครับ แต่ต้องขออณุญาติก่อนนะครับ

 
บทความนี้เป็นลิขสิทธ์ของ นายนพดล ก๊กเครือ หากต้องการนำไปเผยแพร่ กรุณาแจ้งด้วยครับ Golf@capmoo.com
Copyright © 2007 by แคบหมูดอทคอม. All rights reserved.